Centuria Calcium Total
เซนจูเรีย แคลเซียม โททอล
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคลเซียม ชนิดเม็ดจากประเทศอเมริกา
แคลเซียม
เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน ร่างกายจะมีการดูดซึมแคลเซียม
เพื่อใช้ตามความจำเป็นแบบวันต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่จะดูดซึมไปยังกระดูกและ
ฟันโดยตรง เพื่อการเสริมสร้างและคงความแข็งแรงของกระดูกและฟันอีก
ส่วนจะดูดซึมไปใช้ประโยชน์ทั่วร่างกาย เช่น การแข็งตัวของเลือด การหด
รัดของกล้ามเนื้อ การส่งความรู้สึกไปตามเส้นประสาทต่างๆ การเก็บกักและ
การปล่อยฮอร์โมน ทั้งยังทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ และช่วยรักษาระบบภูมิคุ้ม
กันของร่างกายรวมถึงกระบวนการ การทำงานของอวัยวะอื่นๆ ที่สำคัญอีก
มากมาย
เราต้องการแคลเซียมแค่ไหนต่อวัน ?
กลุ่มบุคคลทั้งเพศชายและหญิง ปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอต่อวัน
วัยทารก ( 0-12 เดือน ) 210- 270 มิลลิกรัม
วัยเด็ก - วัยรุ่น ( 1- 25 ปี ) 800- 1,000 มิลลิกรัม
วัยทำงาน ( 26- 50 ปี ) 1,200 มิลลิกรัม
วัยสูงอายุ ( 51 ปีขึ้นไป ) 1,500 มิลลิกรัม
สตรีมีครรภ์/ สตรีให้นมบุตร 1,500- 2,000 มิลลิกรัม
ผู้ป่วยกระดูกหัก 1,500 มิลลิกรัม
การดูดซึมและการสะสมแคลเซียมของร่างกาย
การทานแคลเซียมแต่ละครั้ง ร่างกายดูดซึมไว้ได้เพียง 20- 40% จากปริมาณ
ที่ทานเข้าไป ซึ่งประสิทธิภาพในการดูดซึม เกี่ยวพันกับการสะสมแคลเซียม
โดยตรง จากการศึกษาพบว่าการสะสมแคลเซียมเริ่มตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์
มารดาและจะลดลงไปตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพบว่าหลังจากอายุ 30 ปี ร่าง
กายจะไม่สามารถสะสมแคลเซียมในกระดูกได้อีกต่อไป
ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซึมแคลเซียม
1. อายุ / เพศ อายุเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมจะยิ่งลดลง
และเพศชายมีการดูดซึมแคลเซียมได้มากกว่าเพศหญิง
2. องค์ประกอบอื่นๆ ในอาหาร สารบางชนิดในผัก เช่น ใยอาหาร ,ไฟเตต
หรือฟอสฟอรัส ที่มากเกินไปในร่างกาย ทำให้มีการจับตัวกับแคลเซียม
เป็นสารประกอบโมเลกุลใหญ่ ที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมไปใช้ได้
3. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมหรือยาปฏิชีวนะบางชนิด
แคลเซียมกับวิตามินและแร่ธาตุ
- แมกนีเซียม
แคลเซียมและแมกนีเซียม ต้องทำหน้าที่ร่วมกันอย่างแยกจากกันไม่ได้
แมกนีเซียมจะช่วยในเรื่องของการดูดซึมแคลเซียม เพื่อการสร้างความ
แข็งแรงให้กับกระดูก
- วิตามินดี
เป็นตัวช่วยในการดูดซึมแึคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย โดยการเร่งระบบการขนส่ง
แคลเซียมให้เคลื่อนผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด หากปริมาณแคลเซียม
ในเลือดต่ำ วิตามินดี จะเข้าไปทำปฏิกิริยาที่ไต เพื่อทำให้ปริมาณแคลเซียม
ที่มีอยู่ในร่างกายเพียงพอกับความต้องการ
- วิตามิน ซี
เป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาำพในการดูดซึมแคลเซียม เนื่องจากวิตามิน ซี มี
สภาวะเป็นกรด ซึ่งเป็นสภาวะที่แคลเซียมดูดซึมได้ดี การทานแคลเซียมร่วม
กับวิตามิน ซี จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายให้
ดียิ่งขึ้น
- แมกนีเซียมและวิตามิน ดี
แมกนีเซียมจะช่วยสร้างวิตามิน ดี ในรูปแบบที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อ
การเสริมสร้างความแข็งแรงและเพิ่มความหนาแน่นให้กับกระดูกและฟัน ถือ
เป็นการชะลอระยะเวลาในการเสื่อมของกระดูกและฟันได้
โรคที่เกิดจากการขาดแึคลเซียม
- โรคกระดูกพรุน เมื่ออายุ 30 ปี ความสามารถในการสะสมแคลเซียมจะ
หมดไป ในขณะที่การสลายกระดูกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6- 8 ทุกๆ 10 ปี หากร่าง
กายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอต่อวัน ร่างกายจะดึงแคลเซียมที่อยู่ในกระดูก
ออกมาใช้ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุน
- ความดันโลหิตสูง จากการศึกษาพบว่า แึคลเซียมช่วยให้กล้ามเนื้อบีบตัว
ได้ดี ทำให้หัวใจและหลอดเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผล
ให้ความดันโลหิตลดลงได้
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
มีแนวโน้มลดลงเมื่อรับประทานแคลเซียม เพราะแคลเซียมช่วยลดการรบกวน
ของน้ำดีและกรดไขมันในลำไส้ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติ อัน
เป็นผลสืบเนื่องให้เกิดโรคมะเร็ง
- อาการปวดก่อนมีประจำเดือน จากการศึกษาวิจัยโดยให้ผู้หญิงจำนวนหลาย
ร้อยคนที่มีอาการปวดก่อนมีประจำเดือน รับประทานแคลเซียมขนาด 750 มก.
ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 เม็ด พบว่าอาการดังกล่าวลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน
ผู้ที่เสี่ยงต่อการขาดแคลเซียม
- วัยทำงาน ( 26- 50 ปี ) เมื่ออายุ 30 ปี การสะสมแคลเซียมในกระดูกจะหมด
ไป ขณะที่การสลายตัวของกระดูกกลับเพิ่มสูงขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะเพศ
หญิง ซึ่งพบว่าเริ่มเกิดปัญหาโรคกระดูกตั้งแต่อายุ 40 ซึ่งเร็วกว่าเพศชายถึง
20 ปี ส่วนหนึ่งมาจากการดูดซึมแึคลเซียมได้น้อยกว่าเพศชาย ทำให้การสะสม
แคลเซียมน้อยตามไปด้วย เมื่อการสะสมแคลเซียมหมดไปแล้ว แคลเซียม
ที่สะสมอยู่ในกระดูกจึงถูกดึงออกมาใช้ จนเกิดปัญหาโรคกระดูกสูงกว่า
เพศชาย
- วัยสูงอายุ ( 51 ปีขึ้นไป ) เป็นวัยที่มีประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมต่ำ
ทำให้มีการสูญเสียแคลเซียมออกจากกระดูก โดยเฉพาะหญิงวัยหมดประจำ
เดือน เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนและประสิทธิภาพในการสร้างวิตามิน ดี ลดลง
บางรายอาจกระดูกหักได้ เพราะแบกรับน้ำหนักตัวไม่ไหว หรือที่ร้ายแรงก็คือ
ผลเสียที่เกิดกับกระดูกสันหลัง กระดูกต้นขาและแขน โดยโรคดังกล่าวจะไม่
แสดงอาการใดๆ ให้ทราบเลยจนกว่าจะมีอาการกระดูกหัก
- สตรีมีครรภ์ และ สตรีให้นมบุตร เนื่องจากแม่จะต้องถ่ายทอดแคลเซียมสู่ลูก
เพื่อการพัฒนาโครงสร้างร่างกายของทารกในครรภ์ หากได้รับแคลเซียมไม่
เพียงพอจะเกิดผลเสียทั้งแม่และลูก เช่น แม่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณ
ต่างๆ โดยเฉพาะน่อง ซึ่งเกิดขึ้นทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือเดินมากไป จาก
การศึกษาพบว่าสตรีมีครรภ์เป็นตะคริว ถึงร้อยละ 26.8 มักเริ่มมีอาการตั้งแต่
อายุครรภ์ได้ 25 สัปดาห์
- ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เพราะสารนิโคตินและแอลกอฮอล์
รวมถึงคาเฟอีน จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่ง Adrenaline ซึ่งทำให้เกิดการย่อย
สลายกระดูกมากขึ้น
- ผู้ที่ผอมบางกระดูกเล็ก มักจะมีการสะสมแคลเซียมไว้ในกระดูกในปริมาณ
น้อย
- ผู้ที่ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือนักมังสวิรัติ ทำให้โอกาสได้รับแคลเซียม
ที่เพียงพอต่อวันมีน้อย
- ผู้ที่แพ้นม เพราะนมเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม
- ผู้ที่มีปัญหาต่อมไร้ท่อ ทำให้มีการดึงแคลเซียมออกจากกระดูกมากกว่า
ปกติ
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
วิธีทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้งหลังอาหาร